มาดูว่า รางน้ำฝนโกดัง มีความสำคัญหรือไม่ ควรจะติดรางน้ำหรือไม่ควรติด

รางน้ำฝนโกดัง มีบทบาทสำคัญในการป้องกันปัญหา ที่เกี่ยวข้องกับน้ำฝน ไม่ว่าจะเป็นการระบายน้ำ การป้องกันโครงสร้าง อาคารเสียหาย และ การรักษาสภาพแวดล้อมรอบโกดังให้น่าใช้งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีฝนตกชุก
ความสำคัญของ รางน้ำฝนติดตั้งตามโกดัง
1 ป้องกันน้ำขัง และ การกัดเซาะดิน
- น้ำฝนที่ไหลลงมาโดยตรงจากหลังคาอาจทำให้ดินรอบโกดังถูกกัดเซาะ และ เกิดน้ำขัง การติดตั้งรางน้ำช่วยควบคุมทิศทางการไหลของน้ำ
2 ป้องกันโครงสร้างอาคารเสียหาย
- ลดโอกาสที่น้ำฝนจะกระเด็นเข้าไปในตัวโกดัง หรือ พื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งอาจทำให้เกิดสนิม รอยร้าว หรือการเสื่อมสภาพของวัสดุ
3 เพิ่มความปลอดภัย
- การจัดการน้ำฝนอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการเกิดแอ่งน้ำ ที่อาจเป็นอันตรายต่อพนักงาน หรือ ผู้ใช้งานโกดัง
วัสดุยอดนิยมสำหรับ รางน้ำฝนโกดัง
1 รางน้ำสังกะสี ( Galvanized Steel )
- ทนทานต่อการใช้งานหนัก
- เหมาะกับโกดังที่มีโครงสร้างขนาดใหญ่
2 รางน้ำสแตนเลส
- กันสนิมได้ดี และ อายุการใช้งานยาวนาน
- เหมาะสำหรับโกดังในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
- ไม่ต้องซ่อมแซมบ่อย หรือ เปลี่ยนรางน้ำบ่อยๆ
3 รางน้ำไฟเบอร์กลาส
- น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย
- ทนต่อสารเคมี เหมาะสำหรับโกดังเก็บวัตถุอันตราย
4 รางน้ำพีวีซี (PVC)
- ราคาไม่แพง
- เหมาะสำหรับโกดังขนาดเล็ก หรือ พื้นที่ที่ไม่มีความชื้นสูง
แนะนำราคาติดตั้งรางน้ำสแตนเลส เกรด 304 ทนต่อการกันกร่อน ไม่เป็นสนิม
ความหนา | ขนาดรางน้ำฝน | ราคา | ติดตั้ง | รับประกัน | หมายเหตุ |
0.7 มม | 20x20x20 cm | 1,000.00 / เมตร | แบบเชื่อมอาร์กอน | 3 ปี | ไม่รวม Support |
0.8 มม | 20x20x20 cm | 1,050.00 / เมตร | แบบเชื่อมอาร์กอน | 3 ปี | ไม่รวม Support |
0.9 มม | 20x20x20 cm | 1,100.00 / เมตร | แบบเชื่อมอาร์กอน | 3 ปี | ไม่รวม Support |
1.0 มม | 20x20x20 cm | 1,150.00 / เมตร | แบบเชื่อมอาร์กอน | 3 ปี | ไม่รวม Support |
1.2 มม | 20x20x20 cm | 1,200.00 / เมตร | แบบเชื่อมอาร์กอน | 3 ปี | ไม่รวม Support |
1.5 มม | 20x20x20 cm | 1,250.00 / เมตร | แบบเชื่อมอาร์กอน | 3 ปี | ไม่รวม Support |



ก่อนอื่นมาทำความรู้จักสแตนเลส เกรด 304
สแตนเลส 304 ( Stainless Steel 304 ) เป็นหนึ่งในสเตนเลสเกรดออสเทนนิติก ( Austenitic Stainless Steel ) ที่นิยมใช้งานมากที่สุด เนื่องจากมีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูง และ ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในสภาพแวดล้อมทั่วไป และ ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น เช่น อุตสาหกรรมอาหาร เครื่องใช้ในครัวเรือน อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงงานก่อสร้าง และ รางน้ำโรงงาน
คุณสมบัติเด่นของ สแตนเลส 304
ทนทานต่อการกัดกร่อน สแตนเลส 304 มีส่วนประกอบของโครเมียม ( 18-20% ) และนิกเกิล ( 8-10.5% ) ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสนิม และ สารเคมีความแข็งแรง และ ทนทาน สแตนเลสชนิดนี้มีความแข็งแรงสูง และ สามารถทนต่อแรงดึงได้ดี ขึ้นรูปและเชื่อมง่าย: สแตนเลส 304 ขึ้นรูปได้ง่าย สามารถเชื่อมและดัดโค้งตามต้องการ ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น ทนต่อความร้อน สามารถทนความร้อนได้สูงถึงประมาณ 870°C โดยไม่สูญเสียคุณสมบัติของเนื้อวัสดุ
การใช้งานของสแตนเลส 304
รางน้ำและงานก่อสร้าง ใช้ในการทำรางน้ำที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศและความชื้น เครื่องครัวและอุปกรณ์ในครัวเรือน: เนื่องจากทนทานต่อการกัดกร่อนจากกรดและสารต่าง ๆ จึงนิยมใช้ทำหม้อ กระทะ และ เครื่องใช้ในครัวอุตสาหกรรมอาหารและยา: ใช้ทำอุปกรณ์แปรรูปอาหารและเครื่องมือแพทย์ เนื่องจากมีความสะอาดและปลอดภัย การใช้งานทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีการสัมผัสกับน้ำหรือความชื้นอยู่ตลอดเวลา เช่น ห้องน้ำหรือพื้นที่กลางแจ้ง
สรุปแล้ว สแตนเลส 304 เป็นวัสดุที่เหมาะกับงานที่ ต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อน และ ต้องการความแข็งแรง
สแตนเลส 201 ( Stainless Steel 201 ) เป็นสเตนเลสเกรดที่นิยมใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม เนื่องจากมีราคาถูกกว่าเกรด 304 และ มีคุณสมบัติด้านความแข็งแรง ที่เพียงพอสำหรับงานทั่วไป แต่จะมีความทนทานต่อการกัดกร่อนน้อยกว่า จึงไม่เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อม ที่มีความชื้นสูง หรือ ต้องเจอกับสารเคมีที่รุนแรง และ ไม่ควรเอาไปทำรางน้ำโรงงาน ที่อยู่ใกล้ทะเล
คุณสมบัติเด่นของ สแตนเลส 201
ส่วนผสมของธาตุนิกเกิลที่ต่ำกว่า: สแตนเลส 201 ใช้นิกเกิลน้อยกว่า 304 ทำให้มีต้นทุนที่ต่ำลง แต่จะใช้แมงกานีสแทนเพื่อรักษาความทนทาน ความทนทานต่อการกัดกร่อนน้อยกว่า: แม้จะสามารถทนต่อการกัดกร่อนและสนิมได้ แต่ความทนทานจะต่ำกว่าสแตนเลส 304 โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ความแข็งแรงและทนต่อแรงดึงได้ดี: สแตนเลส 201 มีความแข็งแรงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น เครื่องใช้ในครัวเรือนหรือของตกแต่ง
ข้อควรระวังในการใช้งานสแตนเลส 201
ไม่เหมาะกับงานกลางแจ้งที่ต้องเจอกับความชื้นมาก เช่น รางน้ำโรงงานรางน้ำฝนโกดัง หรือ พื้นที่ที่สัมผัสกับน้ำบ่อย ๆ เพราะอาจเกิดสนิมได้ง่ายกว่าสแตนเลส 304 ไม่เหมาะกับงานที่ต้องเจอกับ สารเคมีที่มีความเป็นกรด หรือ ด่างเข้มข้นสรุปได้ว่าสแตนเลส 201 เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าเมื่อใช้งานใน สภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องเจอกับความชื้นสูง เหมาะสำหรับงานภายใน หรือ ของตกแต่งที่เน้นความสวยงามและคุ้มค่า



พิศเพ็งรางน้ำ ให้บริการ ติดตั้งรางน้ำฝนโกดัง โดยช่างผู้ชำนาญการ พร้อมรับประกันคุณภาพงาน สามารถติดต่อเราเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือประเมินราคาได้เลยครับ
หากคุณสนใจติดตั้ง รางน้ำปรับสโลป สามารถติดต่อทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เช่น บริการ พิศเพ็งรางน้ำ ที่พร้อมให้คำปรึกษา และ ช่วยออกแบบได้อย่างมืออาชีพ บริการสำรวจหน้างานฟรี กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล ส่วนตางจังหวัดดูตามระยะทาง
การออกแบบและติดตั้งรางน้ำฝนโกดัง
- ควรคำนวณขนาดของรางน้ำ ให้เหมาะสมกับปริมาณฝนในพื้นที่
- ติดตั้งมุมลาดเอียงประมาณ 1-2% เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก
- ใช้รางน้ำที่มีข้อต่อและตะแกรงป้องกันใบไม้หรือสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตัน
สรุป
การเลือกรางน้ำฝนโกดังที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับโรงงาน ควรพิจารณาจาก วัสดุ ความทนทาน การออกแบบที่เหมาะสม การบำรุงรักษาง่าย และการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน
หากใครสนใจ ติดตั้งรางน้ำฝน สามารถแอดไลน์เพื่อสอบถามข้อมูลได้ที่
ID Line : pispeng1
Website : pispenggutter.com