รางน้ำฝนสังกะสีไทวัสดุ ดีไหม? เปรียบเทียบข้อดี ข้อเสีย พร้อมวิธีเลือกให้เหมาะกับบ้านคุณ

ในปัจจุบัน การเลือกวัสดุติดตั้งรางน้ำฝนให้กับบ้านหรืออาคารถือเป็นหนึ่งในการตัดสินใจสำคัญที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้าม เพราะรางน้ำฝนมีบทบาทสำคัญในการระบายน้ำจากหลังคา ลดความชื้นที่อาจก่อให้เกิดปัญหาโครงสร้างและปลวก ด้วยวัสดุที่หลากหลาย เช่น สังกะสี, PVC, สแตนเลส หรืออลูมิเนียม เจ้าของบ้านจำนวนมากหันมาให้ความสนใจกับ ” รางน้ำฝนสังกะสีไทวัสดุ ” และ “รางน้ำ PVC ไทวัสดุ” เนื่องจากหาซื้อสะดวก และมีราคาที่จับต้องได้

บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกเกี่ยวกับรางน้ำฝนสังกะสีจากไทวัสดุ ว่าดีไหม มีข้อดีข้อเสียอย่างไร เปรียบเทียบกับรางน้ำ PVC พร้อมทั้งแนะนำวิธีเลือกรางน้ำให้เหมาะกับบ้านของคุณอย่างมืออาชีพ และ ดูผลงานเพิ่มได้

รางน้ำฝนสังกะสีไทวัสดุ คืออะไร? รู้จักวัสดุยอดนิยมสำหรับบ้านไทย

รางน้ำฝนสังกะสีไทวัสดุ

รางน้ำสังกะสีจากไทวัสดุ คือ รางน้ำที่ผลิตจากโลหะเคลือบสังกะสี ซึ่งเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมสูงในไทย เนื่องจากราคาย่อมเยา หาซื้อง่าย และติดตั้งได้รวดเร็ว โดยเฉพาะในร้านวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ เช่น ไทวัสดุ ที่มีจำหน่ายทั้งรางน้ำสังกะสีแบบสำเร็จรูป และ แบบสั่งตัด

คุณสมบัติหลักของรางน้ำฝนสังกะสี:

* ผลิตจากเหล็กเคลือบสังกะสี ช่วยป้องกันสนิมระดับหนึ่ง

* ราคาถูกกว่าวัสดุประเภทอื่น เช่น สแตนเลส หรือคอปเปอร์

* น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย

* อายุการใช้งานเฉลี่ย 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติ:

คุณสมบัติ  รางน้ำฝนสังกะสีไทวัสดุ
ความทนทาน  ปานกลาง  
ความคุ้มค่าราคา สูง  
น้ำหนัก     เบา  
ความง่ายในการติดตั้งง่าย  
อายุการใช้งานโดยเฉลี่ย5-10 ปี  

ทำไมรางน้ำฝนสังกะสีจากไทวัสดุจึงเป็นที่นิยมในกลุ่มเจ้าของบ้าน

รางน้ำสังกะสี จากไทวัสดุได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มเจ้าของบ้านและผู้รับเหมา เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ทั้งด้านราคา ความสะดวก และการใช้งานจริง ดังนี้:

  • ราคาย่อมเยา เหมาะกับเจ้าของบ้านที่มีงบประมาณจำกัด
  • หาซื้อง่ายตามห้างวัสดุก่อสร้างชั้นนำ เช่น ไทวัสดุ
  • สามารถเลือกความยาวและขนาดได้หลากหลาย
  • มีอุปกรณ์เสริมครบ เช่น ข้อต่อ ตะขอ รองรับการติดตั้งทุกแบบ
  • รองรับงานซ่อมและเปลี่ยนได้ง่ายในอนาคต

เปรียบเทียบรางน้ำฝนสังกะสีกับรางน้ำ PVC ไทวัสดุ แบบไหนคุ้มค่ากว่ากัน

เมื่อเปรียบเทียบ รางน้ำสังกะสี กับ รางน้ำ PVC จากไทวัสดุ ทั้งสองประเภทต่างมีข้อดีที่เหมาะกับการใช้งานในลักษณะต่างกัน การเลือกใช้งานจึงควรพิจารณาจากวัตถุประสงค์และงบประมาณ

ตารางเปรียบเทียบคุณสมบัติหลัก:

รายการเปรียบเทียบ รางน้ำฝนสังกะสีไทวัสดุรางน้ำ PVC ไทวัสดุ
ความทนต่อแสงแดดดีปานกลาง ดีมาก 
ความยืดหยุ่นต่ำ สูง  
น้ำหนัก  เบาเบามาก 
ความคุ้มค่า สูง สูง   
อายุการใช้งานโดยเฉลี่ย5-10 ปี10-15 ปี 
ความเสี่ยงต่อสนิมมี ไม่มี  

ข้อดีของ รางน้ำฝนสังกะสีไทวัสดุ ที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจติดตั้ง

ข้อดีเด่นของรางน้ำสังกะสีจากไทวัสดุ ได้แก่:

  • ราคาถูกกว่าวัสดุประเภทอื่น
  • น้ำหนักเบา ไม่เพิ่มภาระให้โครงสร้างหลังคา
  • หาซื้อง่าย และมีสินค้าพร้อมติดตั้งทันที
  • ติดตั้งได้รวดเร็ว ประหยัดค่าช่าง
  • รองรับการดัดโค้ง ตัดแต่งตามหน้างาน
  • มีอุปกรณ์เสริมครบ ทำให้ระบบรางน้ำมีความสมบูรณ์

ด้วยข้อดีข้างต้น ทำให้รางน้ำสังกะสีจากไทวัสดุเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ของเจ้าของบ้านที่ต้องการโซลูชันราคาประหยัดและติดตั้งง่าย

จุดด้อยของ รางน้ำฝนสังกะสีไทวัสดุ ที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกใช้

แม้รางน้ำฝนสังกะสีจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็มีข้อควรพิจารณาเช่นกัน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานระยะยาว

ข้อจำกัดที่ควรทราบ:

  • เสี่ยงต่อการเกิดสนิมหากใช้งานในพื้นที่ชื้นสูง
  • อายุการใช้งานน้อยกว่าวัสดุอื่น เช่น PVC หรือสแตนเลส
  • ไม่ทนต่อการกระแทกหรือแรงดันน้ำสูง
  • ต้องตรวจสอบรอยรั่วและจุดเชื่อมต่อเป็นระยะ

หากบ้านของคุณตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้ทะเล หรือมีฝนตกบ่อย การพิจารณาวัสดุอื่นอาจคุ้มค่ากว่าในระยะยาว

รางน้ำ PVC ไทวัสดุ เหมาะกับบ้านแบบไหน? เจาะลึกการใช้งานจริง

รางน้ำ PVC เป็นอีกหนึ่งวัสดุยอดนิยมที่หาซื้อได้ง่ายจากไทวัสดุ ด้วยคุณสมบัติที่ทนต่อสภาพอากาศและไม่เป็นสนิม จึงเหมาะกับบ้านที่ต้องการระบบระบายน้ำแบบดูแลน้อย

ถาม : บ้านแบบไหนเหมาะกับรางน้ำ PVC?

ตอบ : บ้านพักอาศัยทั่วไป บ้านใกล้ชายฝั่ง หรือบ้านที่ไม่มีหลังคาขนาดใหญ่

ข้อดีของรางน้ำ PVC ไทวัสดุ:

  • ไม่เป็นสนิมแม้ใช้งานในระยะยาว
  • น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย
  • ทนต่อสารเคมีและแสง UV
  • ไม่แตกร้าวง่ายเมื่อโดนแดดจัด

วิธีเลือกรางน้ำฝนให้เหมาะกับโครงสร้างบ้าน โดยเปรียบเทียบวัสดุยอดนิยม

การเลือกรางน้ำฝนให้เหมาะกับบ้านไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่ควรดูปัจจัยหลายด้าน เช่น โครงสร้างหลังคา, ปริมาณฝนในพื้นที่, และความสะดวกในการดูแลรักษา

ตารางสรุปวัสดุรางน้ำที่นิยมใช้:

วัสดุรางน้ำ จุดเด่น เหมาะกับบ้านแบบใด
สังกะสี ราคาประหยัด ติดตั้งง่ายบ้านชั้นเดียว งบจำกัด
PVC ทนแดด ไม่เป็นสนิมบ้านใกล้ทะเล บ้านโมเดิร์น
สแตนเลสแข็งแรง อายุใช้งานยาวนานบ้านหลังใหญ่ บ้านโรงงาน
  1. ตรวจสอบโครงสร้างหลังคาและองศาการลาดเอียง
  2. พิจารณาวัสดุที่เหมาะกับสภาพอากาศในพื้นที่
  3. ประเมินงบประมาณที่ตั้งไว้
  4. ตรวจสอบบริการหลังการขาย เช่น การรับประกัน
  5. เลือกช่างติดตั้งที่มีประสบการณ์โดยเฉพาะ

คำแนะนำจากช่างมืออาชีพ: จะเลือกรางน้ำฝนสังกะสีหรือรางน้ำ PVC จากไทวัสดุดี?

รางน้ำสแตนเลส

คำแนะนำจากทีมช่างมืออาชีพที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปีในวงการติดตั้งรางน้ำฝน:

“หากเจ้าของบ้านมองหาระบบรางน้ำที่ติดตั้งง่าย ประหยัดงบ และใช้งานทั่วไปในระยะสั้นถึงกลาง รางน้ำสังกะสีคือคำตอบ แต่ถ้าต้องการวัสดุที่ดูแลน้อย ไม่เป็นสนิม ใช้งานได้หลายปีโดยไม่ต้องซ่อมแซม รางน้ำ PVC คือตัวเลือกที่เหมาะกว่า”

สรุปแบบเข้าใจง่าย:

  • เลือกสังกะสี : เมื่องบจำกัด ต้องการติดตั้งเร็ว
  • เลือก PVC : เมื่อต้องการอายุใช้งานยาวนาน ไม่อยากดูแลบ่อย

รางน้ำฝนสังกะสี และ รางน้ำ PVC จากไทวัสดุต่างมีข้อดี และ ข้อเสียในตัวเอง การเลือกใช้งานต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งสภาพแวดล้อม ลักษณะโครงสร้างบ้าน และ งบประมาณ

  • เลือก **รางน้ำฝนสังกะสี** หากต้องการประหยัด และ ติดตั้งรวดเร็ว
  • เลือก **รางน้ำ PVC** หากต้องการวัสดุที่ทนทาน ไม่เป็นสนิม ดูแลรักษาง่าย

ไม่ว่าคุณจะเลือกแบบไหน อย่าลืมให้ความสำคัญกับการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน และ เลือกทีมช่างที่มีความเชี่ยวชาญ

ทางบริษัทของเรา มีใบเซอร์ มีใบรับประกัน รอยเชื่อมรอยต่อ 3 ปี และ มีบริการหลังการขาย โดยทีมงานมืออาชีพ

  • โครเมียม (Chromium) 18-20% – ช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนและป้องกันสนิม 
  • นิกเกิล (Nickel) 8-10.5% – เพิ่มความแข็งแรง ทนต่อการเกิดสนิม และทำให้สแตนเลสไม่เป็นแม่เหล็ก 
  • คาร์บอน (Carbon) สูงสุด 0.08% – ช่วยเพิ่มความแข็งแรง แต่ต้องอยู่ในปริมาณต่ำเพื่อป้องกันการเกิดสนิมตามขอบเกรน 
  • แมงกานีส (Manganese) สูงสุด 2% – ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความเหนียว 
  • ซิลิกอน (Silicon) สูงสุด 1% – ช่วยเพิ่มความทนทานต่ออุณหภูมิสูง 
  • ฟอสฟอรัส (Phosphorus) สูงสุด 0.045% – ปริมาณน้อยเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง 
  • กำมะถัน (Sulfur) สูงสุด 0.03% – ปริมาณต่ำเพื่อป้องกันการเปราะของวัสดุ 

คุณสมบัติเด่นของ **สแตนเลส 304** คือทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิมง่าย และ มีความเงางาม เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความสะอาด และ ความทนทาน เช่น งานก่อสร้าง อุตสาหกรรมอาหาร และการติดตั้งรางน้ำฝน

สแตนเลสเกรด 304 จึงนิยมเรียกอีกอย่างสแตนเลส 18/8

  • โครเมียม (Chromium) 16-18% – ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน
  • แมงกานีส (Manganese) 5.5-7.5% – ใช้แทนนิกเกิลบางส่วนเพื่อช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความแข็งแรง
  • นิกเกิล (Nickel) 3.5-5.5% – น้อยกว่าสแตนเลส 304 ทำให้ต้านทานการกัดกร่อนต่ำกว่า
  • คาร์บอน (Carbon) สูงสุด 0.15% – เพิ่มความแข็งแรงแต่หากสูงเกินไปอาจทำให้เปราะง่าย
  • ซิลิกอน (Silicon) สูงสุด 1% – เพิ่มความทนทานต่ออุณหภูมิสูง- ฟอสฟอรัส (Phosphorus) สูงสุด 0.06% – ปริมาณเล็กน้อยเพื่อเสริมความแข็งแรง
  • กำมะถัน (Sulfur) สูงสุด 0.03% – อยู่ในปริมาณต่ำเพื่อป้องกันการเปราะ
  • แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี
  • ราคาถูกกว่าสแตนเลส 304 เนื่องจากมีปริมาณนิกเกิลต่ำกว่า
  • แข็งแรง ทนต่อแรงกระแทกได้ดี
  • ราคาถูกกว่าสแตนเลส 304 เนื่องจากมีปริมาณนิกเกิลต่ำกว่า
  • มีความเงางามใกล้เคียงกับสแตนเลส 304
  • ทนทานต่อการกัดกร่อนในระดับปานกลาง แต่ไม่ทนต่อสารเคมีและสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มสูง
ถ้าบทความนี้มีประโยชน์ช่วยกันแชร์ด้วยครับ
Avatar photo
พิศเพ็ง รางน้ำ

รับติดตั้งรางน้ำสแตนเลส 304 แบบเชื่อมอาร์กอน และ งานสแตนเลส ทุกชนิด

Articles: 40